การทำนาเกลือ
เริ่มต้นด้วยการเลือกพื้นที่ใกล้ชายทะเลที่ราบเรียบเหมาะสมที่เป็นดินเหนียวจากนั้นก็ยกคันนาเป็นแปลงๆขนาดประมาร 10-40 เมตร เพื่อแบ่งพื้นที่เหมือนนาข้าวคันนากว้างประมาร 50 ซม.พอให้คนเดินผ่านไปมาได้และสูงไม่เกิน 1 ฟุตสามารถขังน้ำทะเลได้
หลังจากนั้นก็จะปรับพื้นที่นาแต่ละแปลงให้ราบเรียบให้แปลงนาที่อยู่ไกลที่สุดจากทะเลมีระดับสูงกว่าแปลงนาที่อยู่ใกล้ลำคลองที่เชื่อมติดกับทะเล เมื่อนำน้ำทะเลไปตามลำคลองส่งน้ำให้น้ำไปขังอยู่ในแปลงเหนือสุดก่อน สมัยก่อนการชักน้ำเข้านาจะใช้กาบหลาวชะโอนหรืใบจากมาเป็นถังตักน้ำหรือทำด้วยไม้กระดานใช้ตะปูตอกเป็นรูปถังน้ำกลมหรือสี่เหลียมบางแห่งขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร (ปัจจุบันไม่มี)เพื่อเป็นภาชนะใช้วิดน้ำเข้านามีด้ามคล้ายช้อนขนาดใหญ่ต่อมาปี พ.ศ.2508 ใช้กังหันวิดน้ำเข้า น้ำที่วิดเข้าก็ไหลไปตามคลองส่งสู่แปลงนาตอนบน ให้น้ำขังอยู่แปลงบน (แปลงที่1) น้ำค่อยๆไหลลงแปลงนาที่ต่ำถัดมาตามลำดับ (แปลงที่2) แปลงที่1-2 จะให้หญ้าขึ้นได้จากนั้นสังเกตดูถ้าน้ำแปลงที่1-2ลดเจ้าของนาต้องวิดน้ำใส่เพิ่มอยู่เสมอๆเมื่อน้ำขังในแปลงที่1-2นานๆความเค็มในดินและน้ำนั้นเค้มมากขึ้นจากนั้นก็เปิดให้น้ำไหลจากแปลงที่2ไปนาแปลงที่3นาแปลงที่3จะมีการเตรียมพื้นดินโดยบดอัดดินให้แน่นก่อนโดยใช้น้ำผสมบดอัดหลายๆครั้งให้ดินท้องนามีความเค็มอิ่มตัวใช้ท่อนซุงมะพร้าวบดโดยใช้คนลากพอแห้งให้รดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งบดอัดอีกทีจนดินแน่นเค็มได้ที่ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ ปล่อยน้ำจากแปลงที่ 2 ลงมาขังไว้
เมื่อน้ำในแปลงนาใกล้จะแห้งก็ปล่อยน้ำเข้าไปในแต่ละแปลงแดดจะเผาให้น้ำแห้งตกผลึกและการปล่อยน้ำเข้านาแต่ล่ะแปลงจะต้องไม่ให้มากหรือน้อยเกินไปและมีความต่อเนื่อง
แปลงที่นาระหว่างแปลงที่3ถึง5จะมีแปลงที่4กั้นกลางจะแบ่งทำเป็นแปลงเล็กๆต่างระดับกันเล็กน้อยการเตรียมดินแปลงที่4และ5ปฏิบัติเหมือนการเตรียมดินแปลงที่3แต่ว่าน้ำที่นำมาผสมดินทำให้ชุ่มนั้นใช้น้ำเค็มจากในนาแปลงที่3ทั้งนี้เพราะความเค็มของน้ำมีมากกว่าแปปลงที่1-2
เมื่อน้ำที่ขังในแปลงนาแปลงที่3มีความเค็มจัดจึงปล่อยลงแปลงที่4น้ำจะมีลักษณะความเป็นเกลือมากขึ้นทุกระยะเมื่อปล่อยน้ำให้ไหลไปอยู่ในแปลงที่5ซึ่งน้ำระเหยไปกับแสงแดดเหลืออยู่เล็กน้อยและเกลือตกผลึกแล้วก็ใช้เครื่องมือคราดตอกด้วยตะปู เคาะเกลือให้แตกแล้วกวาดด้วยเครื่องคราดทำด้วยไม้กระดานมากองไว้และปล่อยให้น้ำที่เหลือระเหยแห้งไปเองและล้างเกลือในพื้นไปในตัวได้ด้วยในระหว่างนี้ห้ามผู้ใดลงไปจะทำให้โคลนหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดตกลงไปปนเปื้น
จะสังเกตเห็นว่าถ้าน้ำระเหยเร็วโดยที่เกลือยังไม่ตกผลึกชาวนาก็ชักน้ำเข้าแปลงอีกครั้งจนกว่าจะได้เกลือ
เมื่อกวาดเกลือไปกองและนำขึ้นไปเก็บไว้เตรียมขายให้ปล่อยน้ำเค็มจากแปลงที่3มาอีกครั้งจนได้เกลือรอบที่2,3และ4ตามกระบวนการดังกล่าว
ปีใดที่ฤดูร้อนยาว ชาวนาเกลือก็จะได้เกลือจากนาเกลือหลายรอบขั้นตอนที่เสียเวลากว่าจะได้เกลือคือการยกคันนาบดอัดที่นาเตรียมดิน2เดือนหลังจากนั้นแล้วได้เกลือสัปดาห์ละ1ครั้งจนกว่าจะได้ถึงฤดูฝน
การนำน้ำทะเลเข้าไปในนาแต่เดิมใช้แรงคนวิดน้ำเข้านาหลังจากปี พ.ศ2508มีการใช้กังหันลมวิดน้ำกันมาก ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เครื่องยนต์สูบน้ำแทนการใช้กังหันลมแต่ยังมีกังหันลมเหลืออยู่เป็นหลักฐานบ้าง
เกลือปัตตานีต่างจากเกลือเพชรบุรีและสมุทรสาครคืออยู่ที่ความขาวของเกลือ เกลือปัตตานีขุ่นกว่าเกลือจากสองจังหวัดดังกล่าว เนื่องจากวิธีการเก็บเกลือแตกต่างกันความหนาของชั้นเกลือที่ปัตตานีประมาร 1-1.5 นิ้ว แต่ที่ภาคกลางหนาถึง 5-10 นิ้วจึงได้เกลือขาวกว่า และภาคกลางได้เกลือปีละ 1 ครั้งแต่ที่ปัตตานีสามารถได้เกลือมากกว่า 1 ครั้งคือ เมื่อคราดเอาเกลือรอบแรกแล้วยังมีน้ำเค็มที่กักไว้สามารถปล่อยลงแปลงทิ้งไว้ 7-10 วัน สามารถได้เกลืออีกเป็นครั้งที่สองหรือสาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น